Month: June 2022

มาแนะนำ 6 วิธีในการเลือกใช้ ถุงบรรจุภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับชนิดอาหาร อย่างไรให้ได้คุณภาพที่ คุณภาพในที่นี้ คือคุณภาพถุงที่สามารถช่วยเก็บรักษา หรือคงคุณภาพของอาหาร ให้ได้ดียิ่งนั้นเอง ปัจจัยของวัสดุถุง ความหนา หรืออาหารแต่ละชนิด มีความสำคัญต่อการเลือกใช้ถุงเช่นกันค่ะ

1.เลือกวัสดุถุง ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นๆ เช่น หากเป็นอาหารทอดควรเลือกชนิดถุงเป็นพลาสติกช่วยเก็บความกรอบ หรือเลือกเป็นถุงฟอยด์ หรือ ชนิดอาหารนั้นๆของคุณ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ควรหลีกเลี่ยงให้ถุงกระดาษ ถึงแม้ว่าด้านในจะมีการเคลือบผิวด้วยพลาสติกแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพของอาหารนั้นๆได้

2.วัสดุที่ใช้ผลิตถุง มีหลากหลายชนิด เช่น PE ,PET ,PP ,IPP ,HDPE ,LDPE ,LLDPE คุณสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายๆ โดยคลิกลิ้งต่อไปนี้ >>>> ถุงพลาสติกแต่ละชนิด มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร !!!
3.ขนาดของถุง ควรเลือกให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจะเก็บ เพราะแต่ละขนาดจะมีความกว้าง ความสูง ที่ไม่เหมือนกัน และทางร้าน มีเซ็ตตัวอย่างสินค้า จำหน่ายเพื่อช่วยลูกค้าในการตัดสินใจ ใช้ถุงขนาดนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น เพราะปริมาณอาหารหรือสินค้าแต่ละชนิดมีความแต่ต่างกัน ทั้งขนาด รูปลักษณ์ คำแนะนำที่ดีที่สุด คือการทดลองบรรจุ เพราะให้ได้รูปทรงสินค้าตามที่เราต้องการได้ค่ะ

4.ความหนาของถุงแต่ละชนิด เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ควรเอาใจใส่ในการเลือกซื้อ เพราะความหนาความบาง จะช่วยทำให้สามารถเก็บผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสมกับสินค้านั้นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ในการผลิตอาหารไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือผักต่างๆ ควรเลือกที่ไม่หนาจนเกินไป เพื่อให้ความเย็นสามารถคงความสดใหม่ของอาหารไว้ได้นาน
5.ทนความร้อน ผิวของถุงแต่ละชนิด สามารถทนความร้อนได้แตกต่างกันไป ซึ่งไม่ใช่ความร้อนที่มาจากการปรุงอาหารแล้วเก็บใส่ถุง แต่หมายถึงความร้อนจากภายนอก ซึ่งควรเลือกที่ทนความร้อนภายนอกได้ดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่นำมาเก็บในถุง ให้สามารถเก็บไว้ได้นานและช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานกว่าเดิมได้อีกด้วยค่ะ

6.Food Grade ฟู๊ดเกรด หากคุณนำถุงไปบรรจุอาหาร หรือเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจาก Food Grade ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีความปลอดภัยต่อ อาหาร และผู้บริโภค เพราะฉะนั้นการเลือกชนิดถุงแต่ละชนิด ควรสอบถามผู้จำน่ายทุกครั้ง หากคุณจะนำถุงชนิดนั้นๆไปบรรจุอาหาร

ถุงฟอยล์อลูมิเนียม ผลิตจากฟิล์มลามิเนต และ ฟิล์มโลหะ จะได้ออกมาเป็นแผ่นสำหรับผลิตเป็น บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว มีคุณสมบัติ ความยืดหยุ่น เงา ทนต่อความร้อน ป้องกันการรั่วซึมได้ ป้องกันการเปลี่ยนสีของสินค้าภายใน เก็บรักษากลิ่นของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่าางดี

ลักษณะการใช้งาน ถุงฟอยล์อลูมิเนียม มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับบรรจุภัณฑ์กระป๋องเป็นอย่างมาก มีคุณสมบัติเด่นใน การทนต่อความร้อน จากการฆ่าเชื้อ โดยใช้ความร้อนสูงในขั้นตอนของการบรรจุ และ การฆ่าเชื้อในหม้อต้มหรือนึ่งภายใต้แรงดันสูง ซึ่งจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิห้อง เหมือนกับอาหารบรรจุกระป๋องทั่วไป

ทั้งยังมีข้อดีที่โด่ดเด่นอื่นๆ คือ
1. ราคาถูกกว่ากระป๋องแน่นอน
2. น้ำหนักเบากว่า
3. มีขนาดที่หลายหลาย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค (กรณีบรรุจภัณฑ์สำเร็จ)
4. มีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่หลายหลาย เช่น มีทั้งแบบซิปล็อค และไม่มีซิปล็อค แบบขยายข้าง ถุงก้นตั้งได้ ฯลฯ
5. ถุงฟอยล์อลูมิเนียมใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อยกว่ากระป๋อง
6. วิธีการเปิดใช้งาน ง่ายกว่าการเปิดใช้งานกระป๋อง
7. สามารถจัดการขยะ รีไซเคิล ได้ง่ายกว่า

1. การหันอาหาร ควรมีความบาง และไม่หนามากเกินไป

– ยกตัวอย่าง มันฝรั่่ง การใช้มีดที่คม ในการหันอาหารทอดให้มีความบางนั้น มีข้อดีคือ ช่วยให้อาหารไม่อบน้ำมัน และสามารถทอดมันฝรั่งให้สุกได้อย่างทั่วถึง

2. น้ำมันที่เลือกใช้ในการทอดอาหาร

– เคล็ดลับจากผู้ผลิตเลย์ คือเลือกใช้ น้ำมันรำข้าว ทอดแทนน้ำมันปาล์มแล้ว เพราะน้ำมันรำข้าว มีกรดไขมันอิ่มตัวสูงในกลุ่มวิตามินอี เป็นสารกันหืนในตัวเอง ช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ การดูดซึมคอเลสเตอรอลชั้นเลว เยอะกว่าวิตามินอี ถึง 6 เท่าอีกด้วย

3. การเลือกบรรจุภัณฑ์ ถุงฟอยด์, ถุงฟอยด์อลูมิเนียม

-ถุงฟอยด์อลูมิเนียม สามารถเลือกความหนาของบรรจุภัณฑ์ได้ มีคุณสมบัติ สามารถป้องกัน อากาศ ความชื้น และแสงจากภายนอกได้ ถุงที่ทางเลย์ใช้ คือ ถุงฟอยด์อลูมิเนียม และมีการปิดผนึกปากถุงด้วยการซีลความร้อน และอัดก๊าซไนโตรเจน

4. การอัดก๊าซไนโตรเจน หรือ ก๊าซเฉื่อย

-สิ่งที่ขนมเลย์ ใส่ลงไปในถุงนั้น ไม่ใช่อากาศปกติ แต่เป็นการใส่ “ก๊าซไนโตรเจน” หรือ “ก๊าซเฉื่อย”เข้าไปไล่ก๊าซออกซิเจน เนื่องจากก๊าซเฉื่อย มีคุณสมบัติเป็นสารกันหืน ถ้าในถุงมีออกซิเจนแล้วจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาอ็อกซิไดต์ ซึ่งทำให้ขนมหืนเร็ว อีกยังมีข้อดีเวลาขนส่ง ถ้าไม่มีลม คนจะจับโดนหมด และมันจะแตก ทำให้คุณภาพลดต่ำลงไปได้

ประโยชน์ของ การเลือก สีบรรจุภัณฑ์ ที่โดดเด่นนั้น ช่วยเรียกร้องความสนใจได้ทันทีเมื่อผู้บริโภคพบเห็น และสามารถเป็นที่จดจำได้ง่าย เมื่อบรรจุภัณฑ์มีความโดดเด่น จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายๆ การออกแบบบรรจุภัณฑ์มีองค์ประกอบค่อนข้างหลากหลาย และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ผู้ประกอบการควรให้ความใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน เพราะบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนหน้าตาของสินค้า หากต้องการให้สินค้าดูดีโดดเด่น จำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทั้งวัสดุ รูปทรง ดีไซน์ รวมไปถึง สี

1.สีแดง แสดงถึงความตื่นเต้น ความกระตือรือร้น ความมีชีวิตชีวา ความสนใจ เร้าใจ ความหลงใหล ท้าทาย ให้ความรู้สึกเร้าใจ เหมาะกับบรรจุภัณฑ์ที่แสดงถึงพลัง ความรวดเร็ว

2.สีชมพู แสดงถึงความนุ่มนวล อ่อนโยน หอมหวาน การดูแลเอาใจใส่ มิตรภาพ เสน่ห์ สุขภาพที่ดี เหมาะกับบรรจุภัณฑ์ประเภทขนมหวาน

3.สีส้ม แสดงถึงความอบอุ่น สดใส อิสระ พลัง ความกระตือรือร้น ความมีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน การผจญภัย ความหลงใหล ความมีเสน่ห์ ความสุข ความมั่นใจ เหมาะกับบรรจุภัณฑ์ประเภทการออกกำลังกาย ให้ความรู้สึกถูกกระตุ้นตลอดเวลา

4.สีเขียว แสดงถึงความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย สงบ ธรรมชาติ ชีวิต มนุษยชาติ การเริ่มต้น ความสดชื่น ความปลอดภัย อาหาร ความอุดมสมบูรณ์ การเจริญงอกงาม การเติบโต การดูแล การรักษาเยียวยา ความเห็นอกเห็นใจ การควบคุม ความสมดุล เหมาะกับสินค้าแนวอนุรักษ์ ที่แสดงถึงความเป็นธรรมชาติ

5.สีเหลือง แสดงถึงความรื่นเริง ชุ่มชื่น แจ่มใส ความสุข ความสดใสร่าเริง พลัง อนาคต การมองโลกในแง่ดี อุดมคติ จินตนาการ ความหวัง แสงสว่าง ปัญญา ปรัชญา ความคิดสร้างสรรค์ เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความสดใส

6.สีน้ำเงิน แสดงถึงความสงบ หนักแน่น ความมั่นคง ความศรัทธา ความมีระเบียบ ความสุขุม ความเชื่อถือ ความจงรักภักดีให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะกับสินค้าที่ต้องการแสดงถึงความสงบ สินค้าช่วยในการนอนหลับ

7.สีฟ้า แสดงถึงอิสระ ความสดชื่น ความปลอดโปร่ง โล่ง สบาย สดใส ปลอดภัย เป็นสีแห่งสุขภาพ การเปลี่ยนแปลง เจริญเติบโต เหมาะกับสินค้าที่ส่งผลต่อสุขภาพ

8.สีม่วง แสดงถึงการดูแล ปลอบโยนให้จิตใจสงบ เป็นสีที่ช่วยให้ความรู้สึกฮึกเหิม สง่างาม ความสูงส่ง ความหรูหรา การเฉลิมฉลอง ความลึกลับ สติปัญญา การเปลี่ยนแปลง

9.สีขาว แสดงถึงความสะอาด บริสุทธิ์ เบาสบาย ความเรียบง่าย ความอ่อนเยาว์ เหมาะกับสินค้าด้านสุขภาพ สินค้าที่ต้องการความเรียบง่าย

10.สีเทา ความอ่อนน้อมถ่อมตน ศักดิ์ศรี ความเสถียร ความมั่นคง ความเป็นทางการ ความมีระเบียบ สติปัญญา ความเชื่อถือ ความจงรักภักดี ความเป็นผู้ใหญ่ ความเป็นอนุรักษ์นิยม

11.สีดำ แสดงถึงความเงียบสงัด ลึกลับ พลังอำนาจ ความรอบ ความน่าเกรงขาม ความหรูหรา ได้รับความนิยมในการช่วยให้สินค้าดูเท่ เรียบหรู ทันสมัย เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคุณผู้ชาย

12.สีทอง แสดงถึงความหรูหรา ความมีระดับ อุดมสมบูรณ์ ความสำเร็จ ความเปิดเผย ความรอบรู้ ความมั่นใจ เหมาะกับสินค้าที่ต้องการแสดงถึงความมีพลัง หรูหรา นำสมัย

13.สีเงิน แสดงถึงความหรูหรา เกียรติยศ ความสง่างาม ความมีน้ำใจ ความเข้าถึง ความกระจ่างชัด ความอ่อนโยน ความอ่อนไหว ความสร้างสรรค์ เทคโนโลยี ความทันสมัย ความเป็นระบบระเบียบ ความเยือกเย็น

14.สีน้ำตาล แสดงถึงความเป็นมิตร ความอบอุ่น ความจริงใจ ความแข็งแรง ความซื่อสัตย์ ความไว้ใจ สุขภาพ ความยั่งยืน ความทนทาน ความเรียบง่าย ความเป็นผู้ใหญ่ ความเสมอภาค

เพราะฉะนั้น สีบรรจุภัณฑ์ ถือมีผลต่อความดึงดูด และมีผลต่อการตัดสินค้าเลือกซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่สีเท่านั้น ปัจจัยอื่นๆด้วยก็สำคัญ เช่น การออกแบบ รูปทรงของบรรจุภัณฑ์เองก็มีผลเช่นกัน

ถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหาร มีหลายหลายชนิด เช่น PET, PP, PE, IPP, OPP, HDPE, LDPE, Foil, Aluminum foil ซึ่งวัสดุในแต่ละชนิดนี้ มีลักษณะและรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนกัน บางชนิดไม่เหมาะกับอาหารที่มีความร้อนสูง หรือมีความเย็นต่ำ หรืออาหารบางชนิดไม่สามารถโดนแสงแดดได้เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ถุงบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผลิตภัฑณ์หรืออาหารของคุณ น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น


1. ถุงพลาสติก ที่นิยมนำผลิตเป็นถุงบรรจุภัณฑ์คือ

• PET หรือ PETE (Polyethylene Terephthalate)
• HDPE (พลาสติกชนิดความหนาแน่นสูง)
• LDPE (พลาสติกชนิดความหนาแน่นต่ำ)
• PP (Polypropylene)
• PE (Polyethylene)
• IPP (Inject polypropylene)
• OPP (Oriented polypropylene)

ซึ่งลักษณะถุงพลาสติก ที่เห็นได้ตามท้องตลาดคือ พลาสติกจะมีความใส ใสปานกลาง ใสมาก หรือพลาสติกขุ่น และแตกต่างกันที่ความหนา ยิ่งหนามากๆพลาสติกก็จะมีความขุ่น

ยกตัวอย่างเช่น ถุงซิปล็อค พลาสติกใส ถุงชนิดนี้มีลักษณะใสปานกลาง-ใสมาก ถุงลักษณะนี้เหมาะสำหรับใส่อาหารแห้ง ใส่อาหารพร้อมรับประทาน ใส่อาหารที่สามารถโดดแสงได้ และสำหรับใส่อาหารที่มีการแพ็คแยกชิ้นไว้แล้ว

2. ฟอยล์ และ ฟอยล์อลูมิเนียม ถือเป็นวัสดุที่นิยมนำมาผลิตเป็นถุงบรรจุภัณฑ์

ฟอยล์ จะมีชนิดที่นิยมใช้คือ ฟอยล์เมทัลไลท์ หรือ MPET และ ถุงฟอยด์อลูมิเนียม ซึ่ง 2 ชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันที่ความหนา ตัวฟอยด์อลูมิเนียมจะมีความหนามากกว่า และทึกแสงได้ดีกว่า และรูปแบบบรรจุภัณฑ์ก็มีหลากหลายชนิด เช่น ถุงฟอยล์ทึบ ถุงหน้าใสหลังฟอยล์ ถุงฟอยล์เปิดช่องสำหรับโชว์สินค้า

ยกตัวอย่างเช่น ถุงฟอยล์ทึบ ถุงชนิดนี้จะ 2 รูปแบบ คือ ถุงฟอยล์ทึบเมทัลไลท์ และ ถุงฟอยล์ทึบอลูมิเนียม แตกต่างกันที่ความหนา ถุงฟอยล์ทึบอลูมิเนียม สามารถเก็บรักษาอากาศ ความชื้น ป้องกันแสงได้ดีกว่า เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องเก็บรักษา เช่น อาหารอบกรอบ อาหารทอด คอลลาเจน เป็นต้น